watchworldcup.org

WATCHWORLDCUP.ORG

ควันหลงบอลโลก วิเคราะห์ก่อนเกม แชมป์เก่า ฝรั่งเศส ที่หวังป้องกันแชมป์ มีคิวดวลแข้ง ม้ามืด โมร็อกโก ในรอบตัดเชือกพุธนี้

แชมป์เก่า ฝรั่งเศส ฟอร์มแรงต่อเนื่อง ล่าสุดเฉือนชนะ อังกฤษ 2-1 ทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศ พบ ม้ามืด โมร็อกโก ที่โค่นทีมเต็งตกรอบระนาว ทั้งสองรอดวลแข้งในรอบ 8 ทีมสุดท้าย คืนวันพุธนี้

ฝรั่งเศส พบ โมร็อกโก
รายการ : ฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ
แมตช์การแข่งขัน : ทีมชาติฝรั่งเศส VS ทีมชาติโมร็อกโก
วัน/เวลาแข่งขัน : คืนวันพุธที่ 14 ธันวาคม 2565 เวลา 02.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
สนาม : Lusail Iconic Stadium
ถ่ายทอดสด : ช่อง ONE 31

ทีมชาติฝรั่งเศษ

สรุปเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย (ฝรั่งเศษ) –“ตราไก่” ฝรั่งเศส แชมป์เก่า เอาชนะโปแลนด์ 3-1 ในรอบ 16 ทีม ฉลุยรอบ 8 ทีม ชนกับทีมชาติอังกฤษ

ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ระหว่าง “สิงโตคำราม”อังกฤษ พบ ฝรั่งเศส แชมป์เก่า ด้านฝรั่งเศสของ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ มาในแผน 4-2-3-1 ใช้หน้าเป้าเป็น โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ดาวยิงสูงสุดตลอดกาล “ตราไก่” ทำเกมรุกร่วมกับ อุสมาน เดมเบเล, อองตวน กรีซมันน์ และ คิเลียน เอ็มบัปเป้

เริ่มเกมมาได้เพียง 17 นาที อองตวน กรีซมันน์ ไหลให้ ออเรเลียง ชูอาเมนี่  จับหนึ่งจังหวะและยิงไกลด้วยขวา บอลเสียบมุมอย่างสุดสวย ทำให้ฝรั่งเศส นำ 1-0 ต่อมาไม่มีประตูเพิ่มจากทั้งสองทีม จบครึ่งแรก ฝรั่งเศสนำ 1-0

ครึ่งหลังอังกฤษมาได้จุดโทษ ในนาทีที่ 54 จากจังหวะที่ ออเรเลียง ชูอาเมนี่ ไปทำฟาวล์ใส่ บูคาโย่ ซาก้า และก็เป็น แฮร์รี่ เคน ที่รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1

ถัดมา นาทีที่ 78 ฝรั่งเศสมาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะ อองตวน กรีซมันน์ เปิดจากริมเส้นฝั่งซ้ายให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ พุ่งโหม่งเข้าไปอย่างยอดเยี่ยม ฝรั่งเศส นำ 2-1 อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 82 อังกฤษ ได้จุดโทษอีกครั้ง แฮร์รี่ เคน เป็นคนสังหารจุดโทษ อีกครั้ง ทว่าคราวนี้พลาดยิงข้ามคาน ทำให้ อังกฤษ พลาดประตูตีเสมออย่างน่าเสียได้ ในเวลาทีเหลือไม่มีประตูเกิดขึ้น ทำให้แชมป์เก่าเอาชนะอังกฤษไปได้ 2-1 ผ่านเข้ารอบตัดเชือก

ทีมชาติโมร็อกโก

สรุปเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย (โมร็อกโก) – โมร็อกโก ตัวแทนเดียวจากทวีปแอฟริกา พลิกล็อคเอาชนะการดวลจุดโทษกับ สเปน ผ่านเข้ารอบ 8 ทีม เจอยักษ์ใหญ่จากยุโรปอย่าง โปรตุเกส

ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย คู่แรกของวันนี้ เวลา 22.00 น. เป็นเกมที่สนามอัล ธูมามา สเตเดียม กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ทีมชาติโมร็อกโก พบกับ ทีมชาติโปรตุเกส เกมนี้ โมร็อกโก เสียตัวหลักสองตำแหน่งในแนวรับทั้ง นูส์แซร์ มัซราอูย และ นาเยฟ อาเกิร์ด ที่ได้รับบาดเจ็บ ส่ง ยาเฮีย อัตติยาต อัลลาห์ กับ จาวัด เอล ยามิค ลงมาแทน

ครึ่งแรกโปรตุเกส ครองเกมได้มากกว่า แต่นาทีที่ 42 กลายเป็น โมร็อกโก มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ยาห์ยา อัตติอัต-อัลลาห์ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายมาเข้าหัว ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี โฉบโหม่งตัดหน้านายด่านโปรตุเกสเข้าประตูไป จบครึ่งแรก โมร็อกโก นำ 1-0

เริ่มครึ่งหลัง ก็ยังเป็น โปรตุเกส ที่ครองเกมและบุกใส่ โมร็อกโก แต่ยังขาดทีเด็ดในจังหวะสุดท้าย ขณะที่ โมร็อกโกตั้งรับอย่างเหนียวแน่น และรอสวน เกือบได้ประตูหนีห่างหลายจังหวะแต่ทำไม่ได้ สุดท้าย โมร็อกโก สร้างเซอร์ไพร์ส เอาชนะทีม ใหญ่ได้อีกครั้ง ด้วยสกอร์ 1-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ผลงานในศึกฟุตบอลโลก 2022

ฝรั่งเศส

รอบ

วันที่แข่งขัน

ผลการแข่งขัน

รอบ 8 ทีม

วันที่ 10 ธ.ค 65

อังกฤษ 1-2 ฝรั่งเศส

 รอบ 16 ทีม

วันที่ 4 ธ.ค 65

ฝรั่งเศส 3-1 โปแลนด์

รอบแบ่งกลุ่ม

วันที่ 1 ธ.ค 65

ตูนิเซีย 1-0 ฝรั่งเศส

รอบแบ่งกลุ่ม

วันที่ 26 พ.ย 65

ฝรั่งเศส 2-1 เดนมาร์ก

รอบแบ่งกลุ่ม

วันที่ 23 พ.ย 65

ฝรั่งเศส 4-1 ออสเตรเลีย

 

โมร็อกโก

รอบ

วันที่แข่งขัน

ผลการแข่งขัน

 รอบ 8 ทีม

วันที่ 10 ธ.ค 65

โมร็อกโก 1-0 โปรตุเกส

รอบ 16 ทีม

วันที่ 6 ธ.ค 65

โมร็อกโก* 0-0 สเปน

รอบแบ่งกลุ่ม

วันที่ 1 ธ.ค 65

แคนาดา 1-2 โมร็อกโก

รอบแบ่งกลุ่ม

วันที่ 27 พ.ย 65

เบลเยียม 0-2 โมร็อกโก

รอบแบ่งกลุ่ม

วันที่ 23 พ.ย 65

โมร็อกโก 0-0 โครเอเชีย

บทวิเคราะห์

ฝรั่งเศส ของกุนซือ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ฟอร์มฮ็อตอย่างต่อเนื่องหลังเอาชนะทีมแกร่งอย่างอังกฤษไปได้ ถึงแม้ในเกมดังกล่าว ทัพตราไก่ เล่นต่ำกว่ามาตรฐานแต่สามารถคว้าชัยชนะได้ นั่นแสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวของพวกเขา สร้างโอกาสไม่เยอะแต่มีความเด็ดขาดในจังหวะสุดท้าย บวกกับแนวรุกที่ประสานงานกันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น อองตวน กรีซมันน์ พร้อมสร้างโอกาสให้ ชิรูด์ และ เอ็มบัปเป้ ซึ่งทั้งสองคนกำลังอยู่ในช่วงมั่นใจพร้อมพังประตูได้ทุกเมื่อ

โมร็อกโก ภายใตเการคุมทีมของ วาลิด เรกรากี ที่พึ่งเข้ามารับตำแหน่งเมื่อสามเดือนที่แล้ว แต่กลับทำผลงานได้เกินเป้าหมายไปมาก ทะลุถึงรอบตัดเชือก แบบพลิกความคาดหมายกลายเป็นชาติแรกจากทวีปแอฟริกาที่สามารถทะลุถึงรอบรองฯ แถมเขี่ยทีมเต็งตกรอบไปแล้วหลายทีม โมร็อกโกชุดนี้ เป็นทีมที่มีระเบียบวินัยในการเล่นเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม และมีความดุดัน วิ่งไล่แบบไม่มีหมดตลอด 90 นาที พวกเขาพร้อมทำมันอีกครั้งในเกมดวล ฝรั่งเศส

ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ เป็นเทรนเนอร์มากประสบการ์ณ์ แน่นอนว่าเกมดวลกับ โมร็อกโกในรอบตัดเชือก เขาคงไม่ประมาทอย่างแน่นอน ฝรั่งเศส ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ และไม่มีใครที่ติดโทษแบนเพิ่มแต่อย่างใด นักเตะตัวหลักตามตำแหน่งสามารถลงช่วยทีมได้ครบ ในขณะที่ โมร็อกโก ขาดตัวหลักไปหลายราย โดยเฉพาะแนวรับ ทีมจะไม่สามารถใช้งาน นาเยฟ อเกิร์ด ที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนกองหน้าสำรอง วาลิด เชดดิร่า ติดโทษแบนเพิ่มเข้ามาจะไม่สามารถลงสนามได้ในนัดนี้ อีกทั้งยังต้องเช็คความฟิตของกองหลังกัปตันทีม โรแม็ง ซาอิสส์, ฮาคิม ซิเย็ค และ นูสแซร์ มาซราอุย นั้นอาจจะสงผลต่อการจัดทะของ วาลิด เรกรากี ไม่มากก็น้อย – สุดท้ายคาดว่า โมร็อกโก จะต้านทานความซ่าของแนวรุก ตราไก่ไม่ไหว ด้วยสถิติที่ผ่านมา ฝรั่งเศส น่าเอาชนะและผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้อีกครั้ง และมีโอกาสสูงที่พวกเขาจะป้องกันแชมป์ได้อีกด้วย

คาดการณ์ผลการแข่งขัน

ฝรั่งเศส 3-1 โมร็อกโก