watchworldcup.org

WATCHWORLDCUP.ORG

ควันหลงบอลโลก วิเคราะห์ก่อนเกม ดรีมไฟนอล อาร์เจนตินา-ฝรั่งเศส เป็นการเดิมพันแชมป์สมัยที่ 3 และการขับเคี่ยวชิงตำแหน่งดาวซัลโว

อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย ทะลุแย่งแชมป์กับแชมป์เก่า ฝรั่งเศส ที่ดับซ่าโมร็อกโก เข้าไปป้องกันแชมป์ และลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ เป็นแชมป์สมัยที่ 2 ติดต่อกัน  นอกจากนี้ ทั้ง 2 ทีมยังวัดกันด้วยว่าชาติไหนจะครองแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 3 หลังทั้งคู่เคยได้มาแล้วฝั่งละ 2 สมัย สุดท้ายเกมนี้จะลงเอยอย่างไรห้ามพลาด วันอาทิตย์ที่ 18 ธ.ค. นี้ เวลา 22.00 น.

อาร์เจนติน่า พบ ฝรั่งเศส

รายการ : ฟุตบอลโลก 2022 รอบชิงชนะเลิศ

แมตช์การแข่งขัน : ทีมชาติอาร์เจนติน่า VS ทีมชาติฝรั่งเศส

วัน/เวลาแข่งขัน : คืนวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2565 เวลา 22.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

สนาม : Lusail Stadium

ถ่ายทอดสด : ช่อง 7

ทีมชาติอาร์เจนติน่า

สรุปเกมรอบ 4 ทีมสุดท้าย (อาร์เจนติน่า) –“ฟ้าขาว” อาร์เจนติน่า

ฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ ระหว่าง อาร์เจนตินา ลงเล่นที่สนามลูเซล สเตเดียม ในเมืองลูเซล ประเทศกาตาร์ พบกับ โครเอเชีย ทีมรองแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 โดยเกมนี้ ลิโอเนล สคาโลนี กุนซือของอาร์เจนตินา เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-4-2 ใช้คู่กองหน้าเป็น ลิโอเนล เมสซี เล่นร่วมกับ ฮูเลียน อัลวาเรซ

ออกสตาร์ทช่วง 20 ถึง 30 นาทีแรก เป็นฝ่ายทีมตาหมากรุก ที่บุกเข้าใส่อาร์เจนติน่า ได้อย่างต่อเนื่อง ทว่าไม่สามารถส่งบอลเข้าตาข่ายได้ กระทั่งนาทีที่ 34 เป็นฝั่งของอาร์เจนติน่า มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ฮูเลียน อัลวาเรซ ไปโดน โดมินิค ลิวาโควิช ออกมาสกัดล้มลงไป ก่อนจะเป็น ลิโอเนล เมสซี รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ส่งให้ฟ้าขาวออกนำ 1-0

ถัดมาเพียง 5 นาที ทัพฟ้าขาวได้เฮอีกครั้ง จากจังหวะโต้กลับเร็ว เป็น ฮูเลียน อัลวาเรซ โซโล่เดี่ยวจากครึ่งสนามฝ่ากองหลังทีมตราหมากรุกหลุดเข้าไปยิงตุงตาข่ายในนาทีที่ 39 จบครึ่งแรก อาร์เจนติน่านำ 2-0

ครึ่งหลัง เกมดำเนินถึงนาที 69 อาร์เจนติน่า มาได้ประตูที่ 3 จากความยอดเยี่ยมของ เมสซี่ ลากเลื้อยหลอกตัวประกบอย่าง ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ก่อนตบเข้ากลางให้ ฮูเลียน อัลวาเรซ กดเข้าไปตุงตาข่ายและเป็นประตูที่ 2 ของเจ้าตัวในเกมนี้ ส่งให้ฟ้าขาวนำห่าง 3-0 ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม อาร์เจนตินา ชนะ 3-0 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเป็นทีมแรก

ทีมชาติฝรั่งเศส

สรุปเกมรอบ 4 ทีมสุดท้าย (ฝรั่งเศส) “ตราไก่” ฝรั่งเศส ยังคงฟอร์มแรงต่อเนื่อง หลังตบอังกฤษ 2-1 ผ่านเข้ารอบตัดเชือก พบ กับม้ามืด โมร็อกโก

การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบรองชนะเลิศของฟุตบอลโลก เป็นการพบกันระหว่างฝรั่งเศส พบ โมร็อกโก เกมนี้ ดิดิเยร์ เดสชองส์ เทรนเนอร์ทัพตราไก่ จัดทัพมาในระบบ 4-2-3-1 ใช้หน้าเป้าเป็น โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ทำเกมรุกร่วมกับ อุสมาน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์ และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้

เริ่มเกมเป็นฝรั่งเศสเปิดฉากบุกเกมเข้าใส่และมาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะ อองตวน กรีซมันน์ ได้บอลในเขตโทษ ไหลให้ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ยิงจังหวะเเรกติดบล็อก จังหวะที่สองไม่ดีเเต่ยังไปเข้าทาง เตโอ แอร์กนองเดซ ซัดด้วยซ้ายเข้าไป ช่วยให้ตราไก่ขึ้นนำโมร็อกโก 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 4 เท่านั้น และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว

เริ่มครึ่งหลัง โมร็อกโกเป็นฝ่ายครองบอล บุกเข้าใส่ฝรั่งเศสได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อหวังทำประตูตีเสมอ ทว่าในนาทีที่ 79 ฝรั่งเศสมาได้ประตูเพิ่ม จากการสัมผัสบอลครั้งแรกของ แรนดัล โคโล มูอานี่ ตัวสำรองที่เพิ่งลงสนาม ช่วยให้ตราไก่หนีห่างโมร็อกโก 2-0 เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มครบ 90 นาทีฝรั่งเศสเอาชนะโมร็อกโก 2-0 ยังอยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์ โดยเข้าไปชิงชนะเลิศพบกับอาร์เจนติน่า วันที่ 18 ธันวาคมนี้เวลา 22.00 น.(ตามเวลาประเทศไทย)

ผลงานในศึกฟุตบอลโลก 2022

อาร์เจนติน่า

รอบ

วันที่แข่งขัน

ผลการแข่งขัน

รอบ 4 ทีม

วันที่  13 ธ.ค 65

อาร์เจนติน่า 2-0 โครเอเชีย

รอบ 8 ทีม

วันที่ 9 ธ.ค 65

เนเธอร์แลนด์ 2-2 *อาร์เจนติน่า

 รอบ 16 ทีม

วันที่ 3 ธ.ค 65

อาร์เจนติน่า 2-1 ออสเตรเลีย

รอบแบ่งกลุ่ม

วันที่ 30 ธ.ค 65

โปแลนด์ 0-2 อาร์เจนติน่า

รอบแบ่งกลุ่ม

วันที่ 27 พ.ย 65

อาร์เจนติน่า 2-0 เม็กซิโก

รอบแบ่งกลุ่ม

วันที่ 22 พ.ย 65

อาร์เจนติน่า 1-1 ซาอุดิอาระเบีย


ฝรั่งเศส

รอบ

วันที่แข่งขัน

ผลการแข่งขัน

รอบ 4 ทีม

วันที่ 14 ธ.ค 65

ฝรั่งเศส 2-0 โมร็อกโก

รอบ 8 ทีม

วันที่ 10 ธ.ค 65

อังกฤษ 1-2 ฝรั่งเศส

 รอบ 16 ทีม

วันที่ 4 ธ.ค 65

ฝรั่งเศส 3-1 โปแลนด์

รอบแบ่งกลุ่ม

วันที่ 1 ธ.ค 65

ตูนิเซีย 1-0 ฝรั่งเศส

รอบแบ่งกลุ่ม

วันที่ 26 พ.ย 65

ฝรั่งเศส 2-1 เดนมาร์ก

รอบแบ่งกลุ่ม

วันที่ 23 พ.ย 65

ฝรั่งเศส 4-1 ออสเตรเลีย


H2H– สถิติการเจอกันของทั้ง 2 ทีม รวมทุกรายการ

รายการ

วันที่แข่งขัน

ผลการแข่งขัน

ฟุตบอลโลก

วันที่ 15 ก.ค. 1930

ฝรั่งเศส 0-1 อาร์เจนตินา

กระชับมิตร

วันที่ 03 มิ.ย. 1965

ฝรั่งเศส 0-0 อาร์เจนตินา

กระชับมิตร

วันที่ 08 ม.ค. 1971

อาร์เจนติน่า 3-4 ฝรั่งเศส

กระชับมิตร

วันที่ 12 ม.ค. 1971

อาร์เจนติน่า 2-0 ฝรั่งเศส

อินดิเพนเดนซ์ คัพ

วันที่ 25 มิ.ย. 1972

อาร์เจนติน่า 0-0 ฝรั่งเศส

กระชับมิตร

วันที่ 18 พ.ค. 1974

ฝรั่งเศส 0-1 อาร์เจนตินา

กระชับมิตร

วันที่ 26 มิ.ย. 1977

อาร์เจนติน่า 0-0 ฝรั่งเศส

ฟุตบอลโลก

วันที่ 06 มิ.ย. 1978

อาร์เจนติน่า 2-1 ฝรั่งเศส

กระชับมิตร

วันที่ 26 มี.ค. 1986

ฝรั่งเศส 2-0 อาร์เจนตินา

กระชับมิตร

วันที่ 07 ก.พ. 2007

ฝรั่งเศส 0-1 อาร์เจนตินา

กระชับมิตร

วันที่ 11 ก.พ. 2009

ฝรั่งเศส 0-2 อาร์เจนตินา

ฟุตบอลโลก

วันที่ 30 มิ.ย. 2018

ฝรั่งเศส 4-3 อาร์เจนติน่า

บทวิเคราะห์

ทัพฟ้าขาว อาร์เจนติน่า อดีตแชมป์ฟุตบอลโลก 2 สมัย กำลังอยู่ในช่วงมั่นใจ หลังดับฝัน โครเอเชีย ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ นอกจากนี้ยังเป็นการลุ้นแชมป์โลกสมัยแรกก่อนแขวนสตั๊ดเลิกเล่นทีมชาติของ ลิโอเนล เมสซี่ ดาวยิงซุปเปอร์สตาร์ของทีม ที่ฟุตบอลโลกครั้งนี้ยิงไปแล้ว 5 ประตู มีลุ้นเป็นดาวซัลโวประจำทัวร์นาเม้นท์อีกด้วย ทำให้แฟนลูกหนังทั่วโลกต่างเอาใจช่วยให้เจ้าตัวปิดฉากอาชีพในนามทีมชาติแบบสวยงาม พร้อมขึ้นแท่นนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลเคียงไหล่กับ ดิเอโก มาราโดนา ยอดตำนานลูกหนังผู้ล่วงลับ

ทีมชาติอาร์เจนตินาของ ลิโอเนล สกาโลนี่ กุนซื่อหนุ่มไฟแรง ที่มักจะจัดระบบการเล่นที่คาดเดาได้ยาก เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ทัพฟ้าขาวทะลุถึงรอบชิงชนะเสิศ ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดุดัน พร้อมโค่นทุกทีมในทัวร์นาเม้นท์ครั้งนี้  ฝรั่งเศส คงเป็นคู่ชิงที่สมน้ำสมเนื้อสำหรับอาร์เจติน่า

ฝรั่งเศสของกุนซื่อ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ หมายมั่นที่จะรักษาแชมป์โลกเอาไว้ให้ได้เหมือนกัน เพราะหากทำสำเร็จ นี่จะเป็นทีมแรกในรอบ 60 ปี ที่ป้องกันแชมป์โลกได้ในทัวร์นาเมนต์ลูกหนังแห่งมวลมนุษยชาติ ถึงแม้จะไม่มีดาวยิงเจ้าของบัลลง ดอร์ ครั้งล่าสุดอย่าง คาริม เบนเซม่า แต่ทัพตราไก่ ยังคงมีฟอร์มที่ยอดเยี่ยม โดยพวกเขาเอาชนะ โมร็อกโก ไปได้ 2-0 ในรอบรองชนะเลิศ จากชื่อชั้น โมร็อกโก เป็นรองฝรั่งเศส อย่างมาก ทว่า ฝรั่งเศสภายใต้การคุมทีมของ เดส์ชองส์ ที่เคยคว้าแชมป์โลกเช่นเดียวกัน เห็นได้ชัดว่าฝรั่งเศสชุดนี้เป็นทีมที่ไม่ประมาทคู่แข่งเลย หลังจากได้ประตูพวกเขามักจะแพ็กเกมรับอย่างเหนียวแน่น ทำให้คู่แข่งเขาถึงพื้นที่สุดท้ายยากเลยทีเดียว ทำให้ทีมฝรั่งเศสชุดนี้เป็นทีมที่น่ากลัวไม่ต่างจาก 4 ปีที่แล้ว

การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ เป็นการเจอกันของมหาอำนาจลูกหนังแห่งอเมริกาใต้และยุโรป เป็นแมตช์ที่เต็มไปด้วยความมันอย่างแน่นอน  ก่อนหน้านี้ทั้ง อาร์เจนตินา และ ฝรั่งเศส ต่างเคยสัมผัสแชมป์โลกมาแล้วชาติละ 2 สมัย ซึ่งทัพฟ้าขาวได้แชมป์โลกในปี 1978 และ 1986 ส่วนทีมตราไก่นั้นเคยได้ในปี 1998 ที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพ และล่าสุดเมื่อปี 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งนอกจากมีแชมป์โลกสมัยที่ 3 เป็นเดิมพันแล้วนั้น ยังเป็นการชิงตำแหน่งดาวซัลโว รวมไปถึงนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์นี้ด้วย หลังทั้ง 2 ชาติมีผู้เล่นดาวดังที่ติดทำเนียบดาวซัลโวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกมนี้น่าดูมากยิ่งขึ้น

รอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ เป็นการดวลกันครั้งที่ 13 ของทั้ง 2 ทีม ในฟุตบอลระดับนานาชาติ ซึ่ง อาร์เจนติน่า มีสถิติที่ดีกว่า สามารถเอาชนะ 6 ครั้ง ขณะที่ตราไก่คว้าชัยไปได้เพียง 3 ครั้งจากการพบกัน 12 ครั้งก่อนหน้านี้ สำหรับการเจอกันครั้งล่าสุด เป็นฝ่ายฝรั่งเศสที่เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 4-3 พร้อมเขี่ยอาร์เจนติน่า ตกรอบ 16 ทีมในฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย 

สำหรับการเจอกันหนนี้ เป็นการแข่งขันที่คาดเดาผลการแข่งขันที่ยากมากๆ อาร์เจนตินา และ ฝรั่งเศส ต่างมีจุดแข้งและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน ถ้าวัดกันจากสถิติการเจอกันทั้งสองทีม อาร์เจนตินาดูเหนือกว่านิดๆ และท้ายที่สุด ทัพฟ้าขาว น่าจะเฉือนเอาชนะไปได้แบบหวุดหวิด คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 ได้สำเร็จและเป็นการปิดฉากอาชีพที่สวยงามของ ลิโอเนล เมสซี่ อีกด้วย

คาดการณ์ผลการแข่งขัน

อาร์เจนติน่า 1-0 ฝรั่งเศส